บริษัท ไต้หวัน ทำการรับซื้อ รัม (Rum) จากประเทศ ลิทัวเนีย จำนวน 2 หมื่นกว่าขวด ภายหลังจากที่จีนปฏิเสธการนำเข้าสินค้าดังกล่าว เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 2565) บริษัทจาก ไต้หวัน ทำการซื้อต่อ รัม (Rum) ที่ทำการผลิตจากประเทศ ลิทัวเนีย จำนวน 20,400 ขวด โดยรัมจำนวนดังกล่าวนั้น เป็นสินค้าที่ตกค้างภายหลังจากที่ทางการจีนปฏิเสธการนำเข้าสินค้าดังกล่าว ถือว่าเป็นการดำเนินการล่าสุดหลังจากที่ลิทัวเนียประกาศสนับสนุนไต้หวันเมื่อปีที่ผ่านมา
บริษัทที่ทำการรับซื้อรัมไปนั้นคือ Taiwan Tobacco and Liquor Corp (TTL)
บริษัทที่อยู่ใต้การครอบครองของรัฐ โดยเป็นการดำเนินการจัดซื้อไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาจาก MV Group Production บริษัทผู้ผลิต ภายหลังจากที่รับรู้ว่ากรมศุลกากรของประเทศจีนได้ปฏิเสธคำร้องส่งออกสินค้า
TTL ได้ทำการกล่าวว่า “บริษัทนั้นได้ก้าวเข้ามาในช่วงเวลาที่ถูกต้อง, โดยเราได้ทำการซื้อรัมเหล่านั้น และนำเข้ามายังประเทศไต้หวัน” ทางบริษัทได้เสริมว่ารัมเหล่านี้จะถูกนำมาวางขายในท้องตลาด “ลิทัวเนียให้การสนับสนุนเรา และเราก็สนับสนุนลิทัวเนีย – TTL ขอฉลองกับความสัมผัสนี้”
ในเวลานี้ทางกรมศุลกากรของประเทศจีนนั้น ยังไม่มีการแสดงความเห้น หรือให้ความเห็นในกรณีแต่อย่างใด ถือได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุด ภายหลังจากที่ลิทัวเนียนั้น เปิดทางให้ไต้หวันทำการตั้งสำนักงานตัวแทน (กงศุล) ของตนเองภายในประเทศได้ ส่งผลให้ทางการจีนถือว่าเป็นการละเมิดแนวทาง “จีนเดียว” และได้ลดความสัมพันธ์ทางการทูตลงไป รวมไปถึงเริ่มดำเนินการกีดกันทางการค้า ซึ่งก็ได้มีการออกมาปฏิเสธไปก่อนหน้านี้
WHO ออกมาเตือนว่า อย่าเรียก โควิดโอมิครอน ว่าอาการไม่หนัก เนื่องจากทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นมาก และอาจทำให้ระบบสาธารณสุขล่มได้ เมื่อวันที่ 7 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาเตือนประชาชนว่าอย่าอธิบายว่าผู้ป่วยโอมิครอนมีอาการป่วยไม่รุนแรง แม้ว่าหลายฝ่ายจะยืนยันตรงกันว่าผู้ป่วยโควิดโอมิครอนมีอาการป่วยที่เบากว่าโควิดสายพันธุ์อื่นๆ
โดยนาย เกเบรเยซุส อธิบายว่า แม้ผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนแล้วจะไม่แสดงอาการป่วยรุนแรงหากติดโควิดโอมิครอน แต่โควิดโอมิครอนนั้นสามารถส่งทำให้ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลได้เหมือนโควิดสายพันธุ์อื่นๆ และด้วยการแพร่เชื้อที่ง่ายและรวดเร็วทำให้ผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และสร้างความกังวลว่าอาจจะทำให้ระบบสาธารณสุขล่มได้กับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเป็นเหมือนคลื่นสึนามิ
ขณะเดียวกัน WHO ได้เปิดเผยว่ายอดผู้ป่วยโควิดใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 71 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยประเทศอเมริกาพบผู้ป่วยโควิดใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 ส่วนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดนั้น ร้อยละ 90 คือผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด
สุดน่ารัก! ราชวงศ์อังกฤษ ร่อนจดหมายชื่นชม เด็กหญิงแต่งเป็น ‘ควีนเอลิซาเบ็ธ’
กลายเป็นเหตุการณ์สุดน่ารักขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อ ราชวงศ์อังกฤษ ส่งจดหมายชื่นชม เด็กหญิงแต่งเป็น ‘ควีนเอลิซาเบ็ธ’ ในวันฮาโลวีน เมื่อวันที่ 2 มกราคม สำนักข่าว เดอะ ซัน ได้รายงานว่า ทางพระราชวังวินด์เซอร์ของประเทศอังกฤษได้ส่งจดหมายไปยัง จาเลน ซัทเธอร์แลนด์ เด็กหญิงชาวอเมริกันวัยหนึ่งขวบ ที่ได้แต่งตัวเป็น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน ปีที่ผ่านมา
ซึ่งจดหมายฉบับดังกล่าวระบุว่า “สมเด็จพระราชินีฯ มีประสงค์ให้ฉันเขียนจดหมายนี้มาขอบคุณจดหมายและรูปถ่ายที่แนบมาด้วยอย่างรอบคอบ สมเด็จพระราชินีฯ คิดว่านั่นเป็นเรื่องที่กรุณาอย่างที่สุด ที่ทรงพอพระทัยได้เห็นภาพลูกสาวของคุณ ในชุดที่งามสง่า
พระองค์มีพระประสงค์ให้ครอบครัวของคุณมีความสุขในวันคริสต์มาส พร้อมกับแนบข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับสุนัขของพระองค์ซึ่งคิดว่าจาเลนจะชอบมาด้วย”
หนูน้อย จาเลน ได้สวมหมวก ชุดเดรสสีเดียวกันกับหมวก สร้อยคอไข่มุก และสวมหวิกผมสีขาว ซึ่งนอกจากเครื่องแต่งกายแล้ว เธอยังมีสุนัขคอร์กี้อีกสองตัว ซึ่งเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อีกด้วย
ซึ่งแม่ของจาเลน ได้เล่าว่าแรงบันดาลใจชุดนี้ เพราะสุนัขคอร์กี้ทั้งสองตัวสนิทกับลูกสาวมาก ซึ่งครอบครัวของเธออยากจะทำกิจกรรมอะไรซักอย่างที่ลูกสาวของเธอสามารถทำร่วมกับสุนัขทั้งสองตัวได้ และตัวเธอยังชื่นชม สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จึงเป็นที่มาของชุดนี้
โดยแม่ของจาเลนได้ส่งภาพดังกล่าวไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ ซึ่งเธอไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะได้รับข้อความกลับมา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การเตรียมจัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 (Thailand International Health Expo 2022) มหกรรมแสดงศักยภาพความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขครั้งยิ่งใหญ่ของไทยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายและนโยบายของรัฐบาลที่เห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการเปิดประเทศมากขึ้น
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง